Adobe InDesign

Adobe

โปรแกรม Adobe InDesign เป็นโปรแกรมสำหรับออกแบบงานด้านสิ่งพิมพ์ที่ดีที่สุดจุดเด่นของโปรแกรม InDesign คือมีความสามารถในการจัดการหน้าเอกสาร และเค้าโครงเอกสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยโปรแกรมจะมีเส้นตารางและเส้นบอกแนวที่แม่นยำมากเพื่อใช้ในการวางตำแหน่งองค์ประกอบต่างๆ ของงานเอกสาร โปรแกรมนี้จึงเหมาะมากสำหรับงานสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ เช่น นิตยสาร วารสาร หรือแผ่นพับ รวมถึงการสร้างสรรค์สื่อหนังสือ

ขอใบเสนอราคา Adobe

฿17,000 [รวม vat ฿18,190]

ข้อมูลสินค้า

Adobe InDesign

โปรแกรมที่มีความสามารถในการจัดหน้าเอกสารระดับมืออาชีพ สามารถออกแบบเค้าโครงงานเอกสารและงานสิ่งพิมพ์ การจัดวางคอลัมน์ การเรียงหน้าหนังสือ
ได้อย่างแม่นยำ และตัวโปรแกรมยังมีเครื่องมือที่ช่วยให้การออกแบบทำได้อย่างรวดเร็วและง่ายมากขึ้น เช่น เครื่องมือ Guide ที่เป็นเส้นบอกแนวเปรียบเสมือน
ไม้บรรทัดสำหรับการวัดระยะหน้ากระดาษ และโปรแกรม InDesign นั้นสามารถนำเข้ารูปภาพ รูปวาด หรือโลโก้ สำหรับการดีไซน์หน้าปกหนังสือหรือ
สื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ จึงมีการทำงานร่วมกับโปรแกรม Photoshop และ Illustrator ได้เป็นอย่างดี โปรแกรมนี้จึงเหมาะมากสำหรับนักออกแบบกราฟิกและ
ศิลปินผู้ผลิตงานด้านสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ทั้งหนังสือ นิตยสาร แผ่นพับ ใบปลิว รวมถึง E-book หรือเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ เอกสารแบบพกพา (PDF)
สิ่งพิมพ์ดิจิทัล นิตยสารดิจิทัล และเนื้อหาที่เหมาะสำหรับการใช้งานบนคอมพิวเตอร์และแท็บเล็ต

Category: Tag:

ความต้องการของระบบ

windows

ความต้องการขั้นต่ำ

  • Processor
Processor Multicore Intel (พร้อมรองรับ 64 บิต) หรือ Processor AMD Athlon® 64
  • Operating system

Windows 10 64 บิต (เวอร์ชัน 1909) ขึ้นไป ; ไม่รองรับเวอร์ชัน LTSC
รองรับ Windows 10 เวอร์ชัน 1909, 2004, 20H2, 21H1, 21H2

  • RAM

4 GB

  • Screen resolution

จอภาพขนาด 1024 x 768, รองรับการแสดงผลแบบ HiDPI
*หมายเหตุ: ในการใช้พื้นที่ทำงาน InDesign Touch คุณต้องมีแท็บเล็ต/จอภาพที่เปิดใช้งานหน้าจอสัมผัสที่ใช้
Windows 10 ขึ้นไป (เช่น Microsoft Surface Pro 3) โดยตั้งค่าความละเอียดหน้าจอเป็น 2160 x 1440 ขึ้นไป
สำหรับ UI ที่ปรับขนาดได้ ความละเอียดขั้นต่ำของจอภาพที่ต้องการคือ 1920 x 1080

  • Hard disk space

พื้นที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์ 3.6 GB สำหรับการติดตั้ง
ต้องการพื้นที่ว่างเพิ่มเติมระหว่างการติดตั้ง (ไม่สามารถติดตั้งบนอุปกรณ์เก็บข้อมูลแฟลชแบบถอดได้)

  • Supported Video adapter

การ์ดจอ – การ์ดจอ 32 บิต

ความต้องการที่แนะนำ

  • Processor

Processor Multicore Intel (พร้อมรองรับ 64 บิต) หรือ Processor AMD Athlon® 64

  • Operating system

Windows 10 64 บิต (เวอร์ชัน 1909) ขึ้นไป ; ไม่รองรับเวอร์ชัน LTSC
รองรับ Windows 10 เวอร์ชัน 1909, 2004, 20H2, 21H1, 21H2

  • RAM

16 GB

  • Screen resolution

จอภาพขนาด 1920 X 1080, รองรับการแสดงผลแบบ HiDPI
*หมายเหตุ: ในการใช้พื้นที่ทำงาน InDesign Touch คุณต้องมีแท็บเล็ต/จอภาพที่เปิดใช้งานหน้าจอสัมผัสที่ใช้
Windows 10 ขึ้นไป (เช่น Microsoft Surface Pro 3) โดยตั้งค่าความละเอียดหน้าจอเป็น 2160 x 1440 ขึ้นไป
สำหรับ UI ที่ปรับขนาดได้ ความละเอียดขั้นต่ำของจอภาพที่ต้องการคือ 1920 x 1080

  • Hard disk space

พื้นที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์ 3.6 GB สำหรับการติดตั้ง
ต้องการพื้นที่ว่างเพิ่มเติมระหว่างการติดตั้ง (ไม่สามารถติดตั้งบนอุปกรณ์เก็บข้อมูลแฟลชแบบถอดได้)
แนะนำ SSD

  • Supported Video adapter

การ์ดจอ – การ์ดจอ 32 บิต

MacOS

ความต้องการขั้นต่ำ

  • Processor

Processor Multicore Intel หรือ Apple silicon/M1
engine SIMD SSE4.2 ขึ้นไป

  • Operating system

macOS เวอร์ชัน 12.0 (Monterey)
macOS เวอร์ชัน 11 (Big Sur)
macOS เวอร์ชัน 10.15 (Catalina)

  • RAM

4 GB

  • GPU

ในการใช้ประสิทธิภาพของ GPU Mac ของคุณควรมี VRAM อย่างน้อย 1024 MB และคอมพิวเตอร์ของคุณต้องรองรับ Metal
Metal GPU รองรับบน:
– iMac 4K
– iMac 5K
– MacBook Pro Retina
– Mac Pro เชื่อมต่อกับจอภาพ HiDPI
– Mac mini เชื่อมต่อกับจอภาพ HiDPI
หากต้องการตรวจสอบค่า VRAM ให้เลือก Mac > About This Mac (Graphics information).

  • Screen resolution

– จอแสดงผล 1024 x 768, รองรับจอภาพ Retina
สำหรับ UI ที่ปรับขนาดได้ ความละเอียดขั้นต่ำของจอภาพที่ต้องการคือ 1920 x 1080

  • Hard disk space

– พื้นที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์ 4.5 GB สำหรับการติดตั้ง
ต้องการพื้นที่ว่างเพิ่มเติมระหว่างการติดตั้ง (ไม่สามารถติดตั้งบนโวลุ่มที่ใช้ระบบไฟล์แบบคำนึงถึงขนาดตัวพิมพ์
หรือบนอุปกรณ์เก็บข้อมูลแฟลชแบบถอดได้)

ความต้องการที่แนะนำ

  • Processor

Processor Multicore Intel หรือ Apple silicon/M1
engine SIMD SSE4.2 ขึ้นไป

  • Operating system

macOS เวอร์ชัน 12.0 (Monterey)
macOS เวอร์ชัน 11 (Big Sur)
macOS เวอร์ชัน 10.15 (Catalina)

  • RAM

16 GB ขึ้นไป

  • GPU

ในการใช้ประสิทธิภาพของ GPU Mac ของคุณควรมี VRAM 2 GB และคอมพิวเตอร์ของคุณต้องรองรับ Metal
Metal GPU รองรับบน:
– iMac 4K
– iMac 5K
– MacBook Pro Retina
– Mac Pro เชื่อมต่อกับจอภาพ HiDPI
– Mac mini เชื่อมต่อกับจอภาพ HiDPI
หากต้องการตรวจสอบค่า VRAM ให้เลือก Mac > About This Mac (Graphics information)

  • Screen resolution

จอแสดงผล 1920 x 1080, รองรับจอภาพ Retina
สำหรับ UI ที่ปรับขนาดได้ ความละเอียดขั้นต่ำของจอภาพที่ต้องการคือ 1920 x 1080

  • Hard disk space

พื้นที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์ 4.5 GB สำหรับการติดตั้ง
ต้องการพื้นที่ว่างเพิ่มเติมระหว่างการติดตั้ง (ไม่สามารถติดตั้งบนโวลุ่มที่ใช้ระบบไฟล์แบบคำนึงถึงขนาดตัวพิมพ์
หรือบนอุปกรณ์เก็บข้อมูลแฟลชแบบถอดได้)

คำถามที่พบบ่อย

Photoshop และ Lightroom ต่างกันอย่างไร?

Photoshop เหมาะสำหรับการ Retouch ภาพเบื้องต้นไปจนถึงการตกแต่งภาพแบบกราฟิก ซึ่งสามารถทำได้ทุกอย่างตั้งแต่การประมวลผล รูปภาพไปจนถึงการออกแบบ และใช้เลเยอร์และมาสก์ในการจัดการรูปภาพ ส่วน lightroom นั้นเหมาะกับงานภาพถ่ายมากที่สุด สามารถ รองรับไฟล์ภาพ RAW โดยตรงจากล้องถ่ายภาพ
และปรับแต่งไฟล์ RAW ได้โดยไม่ต้องพึ่งโปรแกรมเสริม และมี Catalog ช่วยจัดการภาพถ่าย สะดวกต่อการแต่งภาพเป็นจำนวนมาก ดูข้อมูลเพิ่มเติมว่าเมื่อใดที่ควรใช้ Photoshop กับ Lightroom ที่นี่

ไฟล์ RAW คืออะไร?

ไฟล์ Raw คือ ข้อมูลภาพจากเซนเซอร์ที่ยังไม่ผ่านการประมวลผลการปรับแต่งจาก CPU ของกล้อง โดยปราศจากการบีบอัด ย่อขนาดใดๆทั้งสิ้น ทำให้ได้ ไฟล์ภาพคุณภาพสูงเต็มประสิทธิภาพของกล้อง ไฟล์ Raw ไม่ใช่ไฟล์รูปภาพดังนั้นคุณจะไม่สามารถเอาไฟล์ Raw ไปเปิดในโปรแกรมดูภาพทั่วๆไปได้ และไฟล์ Raw ที่ไม่ถูกบีบอัด หรือ ลดทอนขนาดใดๆ จึงทำให้ไฟล์ Raw มีขนาดที่ใหญ่กว่า Jpeg อย่างแน่นอน

Lightroom รองรับไฟล์ RAW ทุกประเภทหรือไม่?

ใช่ Lightroom รองรับไฟล์ raw ทุกประเภทที่ Lightroom Classic และ Adobe Camera Raw รองรับ หากต้องการดูรายการทั้งหมดที่รองรับ ดูที่
Cameras supported by Camera Raw

Lightroom แตกต่างจาก Lightroom Classic อย่างไร?

Lightroom สามารถทำงานได้หลากหลายอุปกรณ์ ทั้งDesktop , อุปกรณ์มือถือ และบนเว็บไซต์ ซึ่งเป็นการทำงานผ่านระบบคลาวด์ จะมีการสำรอง ไฟล์รูปภาพอัตโนมัติ และการจัดการและการค้นหารูปถ่ายนั้นสามารถใส่ Tag อัตโนมัติและค้นหารูปภาพอย่างชาญฉลาดได้ ส่วน Lightroom Classic จะมีข้อจำกัดมากกว่า คือ สามารถทำงานได้บนเดสก์ท็อปเท่านั้น และการจัดเก็บไฟล์จะจัดเก็บลงในฮาร์ดไดรฟ์ของเครื่อง การจัดการและการค้นหา รูปถ่ายนั้นก็ต้องใส่ Keyword แบบ Manual

ควรใช้ Lightroom Classic และ Lightroom ร่วมกันหรือไม่?

แนะนำให้ทุกคนที่ใช้ Lightroom Classic ดาวน์โหลดและลองใช้ Lightroom เพื่อตัดสินใจว่าคุณต้องการเปลี่ยนไปใช้ Lightroom หรือไม่ คำแนะนำคือให้คุณเลือกและใช้งานอย่างต่อเนื่อง ไม่แนะนำให้ใช้ทั้งสองอย่างร่วมกันในระยะยาว